จอมเวทย์เฟริณ
เฟริณหญิงสาวผู้มีพลังเวทย์บริสุทธิ์ เป็นที่น่าจับตามองของเหล่าอาจารย์ รวมถึงผู้ที่ต้องการฉกฉวยพลังนั้นมาครอบครอง แล้วตัวเธอจะผ่านเรื่องราวต่างๆไปได้อย่างไรพร้อมเหล่าผองเพื่อน
ผู้เข้าชมรวม
483
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
1
หญิงสาวนามเฟริณ
นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เด็กสาวผู้มีดวงตาสีเพลิงเช่นเดียวกับผมได้ยินเสียงโต้เถียงของคุณลุงกับคุณป้าผู้ที่คอยดูแลเธอมาตั้งแต่เธออายุยังจำความไม่ได้ คุณลุงของเธอเป็นชายรูปร่างท่วมเมื่อเทียบกับความสูงที่มีอยู่อาจจะนับว่าเป็นชายแก่ตัวเล็กร่างอ้วนซะมากกว่าแต่ก็นะเจ้าตัวไม่ค่อยชอบพูดคำว่า “อ้วน” นี้น่าคำพูดคำนี้แทบจะเป็นคำต้องห้ามในบ้านนี้เลยก็ว่าได้ ส่วนคุณป้านั้นแตกต่างไปโดยสิ้นเชิงเป็นหญิงรูปร่างสูงหุ่นดี หน้าตาไม่มีรอยเหี่ยวย่นให้เห็นบนใบหน้าแม้อายุจะปาเข้าเลขหกปลายๆแล้วก็ตามมักมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอแต่ตอนนี้ตรงข้ามกับภายในที่เดือดพล่านจากการโต้เถียงนี้ดังภายในคฤหาสน์หลังโตที่สร้างจากหินศิลาหายากสีขาวทั้งหลังถึงแม้ว่าอายุของคฤหาสน์จะยาวนานแค่ไหนกลับไม่ส่งผลให้ความงามนั้นหายไปตามกาลเวลาแบบที่ควรจะเป็น ภายในที่ตกแต่งอย่างสวยงามไม่แพ้ภายนอกไม่มีฝุ่นเกาะแม้พียงนิดบ่งบอกถึงผู้ดูแลที่รักความสะอาด สวยงาม แต่ว่าบนพรมที่ห้องรับแขกกลับมีรอยน้ำชาที่หกเลอะอยู่อย่างไม่น่าเป็นไปได้
“หนที่สองในวันนี้แล้วนะตาเฒ่า ถ้ายังทำให้พรมของฉันเปื้อนชาที่ดื่มอีกล่ะก็อย่าหวังว่าจะได้กินชาอีกในอาทิตย์นี้ เข้าใจไหม” สีหน้าที่ถึงแม้ว่าจะยิ้มแย้มนั้นกับสายที่ดูแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์หันไปทางทิศที่คุณลุงนั่งเป็นประจำ
“บ่นอะไรเป็นยายแก่ไปได้เปื้อนแค่นี้เดี๋ยวใช้เวทน้ำชำระแล้วตามด้วยเวทไฟอ่อนๆไม่นานเดี๋ยวก็กลับเป็นเหมือนเดิมแล้วน่าถ้าเธอไม่ทำฉันทำเองก็ได้น่า”ไม่นานบนพื้นพรมที่เปื้อนรอยน้ำชาก็มีลูกบอลน้ำวนขนาดเท่ากำปั้นกำลังดูดคราบเปื้อนบนพื้นทันที หลังรอยเปื้อนน้ำชาหายไปพร้อมกับลูกบอลน้ำวนไอร้อนก็แผ่คลุมล้อมรอบบริเวณที่มีน้ำเปียกอยู่เมื่อแห้งสนิทไอร้อนก็หายไปรวมกับก่อนหน้านี้ไม่เคยมีรอยเปื้อนมาก่อน
“นั้นนะฉันก็ทำได้แต่คนที่กินเลอะเทอะเหมือนเด็กๆนี้ต่างหากที่รับไม่ได้ อายุปูนนี้แล้วยังทำตัวเป็นเด็กอีก”
“เอาน่าๆอยู่กันมาจนปานนี้แล้วบ่นไม่เลิกอีกจริงไหมเฟริณ”ชายแก่เมื่อเห็นท่าไม่ไหวก็หันมาขอแรงสนับสนุนจากหญิงสาวนัยน์ตาสีเพลิงที่นั่งทานขนมหวานอย่างเอร็ดอร่อย
“อย่าเอาหนูไปยุ่งด้วยซิค่ะคุณลุง หนูยังอยากทนมื้อเย็นที่แสนอร่อยของคุณป้าแทนการกินนอกบ้านแบบคราวที่แล้วนะค่ะ” หญิงสาวนึกถึงเรื่องเมื่อวันก่อนที่คุณลุงของเธอทำน้ำชาหกทั้งแก้วใส่ผ้าแพรสีแดงเพลิงของคุณป้าที่ทุ่มเทถักทอนานเป็นปีจนคุณป้าโมโหพาลมาถึงเธอที่พึ่งกลับมาโดนไล่ให้ไปทานอาหารนอกบ้านซ้ำร้ายไม่มีร้านไหนเปิดในวันนั้นจนต้องทานร้านกีกร่าที่ขึ้นชื่ออาหารพิสดารเธอแทบจะสำรอกออกมาไม่ทันเพราะที่ทานดันเป็นเนื้อจาร์การ์ตัวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์หายากอันโด่งดังว่ากินของเสียเป็นอาหารในการดำรงชีวิต ด้วยลักษณะที่คล้ายม้ามีขนสีเหลืองแสมขาวในบางจุด แต่มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย แล้วเพราะอะไรที่เนื้อจาร์การ์มาเป็นเมนูที่เลื่องชื่อจนหลายคนติดใจก็เพราะว่าเนื้อจาร์การ์มีความนุ่ม มีหวานละมุนราวกับหมักไว้เป็นแรมปีอย่างเป็นธรรมชาติไม่มีเนื้อชนิดไหนอร่อยเท่าเลยก็ว่าได้ แต่เมนูนี้สำหรับเธอขอสาบานเลยว่าถึงแม้จะนุ่มหวานละมุนแค่ไหนก็ไม่ทานอีกแน่ จากชื่อเสีย เอ่ย ชื่อเสียงของมันที่กินของเสียเป็นอาหาร
“โธ่ เฟริณ”
“ไม่ค่ะ ลุงก็ยอมรับผิดไปเถอะค่ะ หนูไม่อยากออกไปทานอาหารนอกบ้านกับลุงอีกแล้ว หนูชอบทานอาหารฝีมือป้าอาร่าที่สุดแล้ว ยิ่งขนมหวานนี้อีกอร่อยสุดยอด” พอพูดจบหญิงสาวก็หันไปโอบกอดคุณป้าแสนสวยราวกับเด็กน้อยไม่มีผิด
“ป้ายังมีพายเชอรอนอยู่นะจ๊ะ”
“ว้าว รักป้าอาร่าที่สุด” พายเชอรอนที่ว่าทำจากผลเชอรอน ผลไม้ประจำถิ่นของนครหลวงมีผลสีแดงเพลิงมีสรรพคุณทางสมุนไพรช่วยบำรุงพลังเวทอีกด้วย
“ไม่รักลุงบ้างหรือไงเฟริณ”
“โอ้ คุณลุงก็ทำเป็นน้อยใจไปได้ หนูรักทั้งคู่นั้นล่ะคะเรามีกันอยู่แค่นี้หนิค่ะ” เพียงหญิงสาวพูดจบประโยคก็เกิดความเงียบปกคลุมภายในทันที สีหน้าของชายหญิงสูงวัยสบกันพร้อมแววตาที่เศร้าหมอง แต่เมื่อหญิงสาวเหลือบไปเห็นสัตว์ตัวน้อยประจำบ้านวิ่งมาหาก็ร้องเรียกทันที
“บากี้ !! หยุดเลยนะตอนนี้ฉันกินอยู่ยังไม่ถึงเวลาเล่น” สิ้นสุดเสียงสัตว์เวทจาร์สการ์ลักษณะคล้ายเสือแต่หากขนาดลำตัวคล้ายแมวที่ได้ชื่อว่าบากี้ตามชื่อที่เจ้าของเรียกเป็นสัตว์เวทที่มีพลังเวทสนับสนุนผู้มีพลังเวทอัคคีถือเป็นสัตว์หายากแต่ที่หน้าแปลกกว่าคือสัตว์ชนิดนี้มักไม่เข้าสังคมชอบอยู่ตัวเดียวในเขตป่าเพื่อรักษาอาณาเขตของไม่ให้สิ่งอันตรายเข้ามาเขตศักดิ์สิทธิ์น้อยคนนักที่จะได้ใกล้ชิดเพราะการจากถิ่นเกิดคล้ายเป็นการปฏิเสธความภักดีต่อฝูง จาร์สการ์เป็นสัตว์ที่มีความรักถิ่นฐานและฝูงมากเพราะเมื่อใดที่สัมผัสอันตรายของสมาชิกจาสการ์ตัวอื่นก็จะรีบไปทันที
“สงสัยเฟริณคงต้องพาเจ้าบากี้ไปเดินเล่นแล้วหล่ะ มาอ้อนถึงที่ขนาดนี้”
“หนูกะว่าตอนบ่ายๆจะเข้าไปซื้อของอยู่พอดีเลย เดี๋ยวหนูพาเจ้าบากี้ไปด้วยนะค่ะ”
“ได้แต่ว่าต้องใช้เวทพรางตัวเจ้าบาร์กี้ไว้ด้วยนะจ๊ะเราไม่อยากให้ใครรู้ว่าหนูมีเจ้าบาร์กี้”
“ได้ค่ะ แต่ว่าที่จริงมันดูคล้ายกับแมวขนฟูมากกว่าจะดูเป็นจาสการ์ด้วยซ้ำนะคะป้าออร่า” หญิงสาวก้มมองบาร์กี้ที่เคล้าคลอเธอไม่ห่าง
“บาร์กี้เป็นสัตว์เวทที่มาพร้อมกับตอนหลานเกิดเช่นเดียวกันเราเสียพ่อกับแม่หลานไปมันเหมือนตัวแทนพ่อแม่หลานเราไม่อยากเสียมันไป เข้าใจหรือปล่าวหลานรัก”
“คะ หนูจะดูแลบาร์กี้เองคุณป้าไม่ต้องห่วงนะค่ะ” ขณะที่พูดเธออุ้มบาร์กี้ไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับขยี้ขนจนยุ่งก่อนจูบที่หัวของบาร์กี้อย่างอ่อนโยนราวกับมันคือพ่อแม่ที่เสียไปของเธอ
“คราวนี้ช่วยดูแลบาจีลดีๆด้วย”
“ค่ะ หนูจะไม่เล่นอะไรแพลงๆแบบคราวที่แล้วแล้วค่ะ” บาจีลที่ว่าก็คือสัตว์พาหนะประจำคฤหาสน์ของเธอสำหรับใช้ลากเกวียนในการเดินทาง เมื่อครั้งที่แล้วเธอให้บาจีลพาไปเขตแดนโครนอสอันเป็นเขตแดนที่ไม่ขึ้นตรงต่อประเทศใดๆเขตแดนที่สัตว์เวทส่วนใหญ่เกิดและเติบโตได้ตามธรรมชาติเนื่องจากมีทุกภูมิอากาศตามแต่ว่าติดชานแดนประเทศใดจึงกล่าวได้ว่าทุกประเทศสามารถเดินทางเข้าสู้เขตแดนโครนอสได้แต่ส่วนใจกลางนั้นยังไม่เคยมีใครเข้าสำรวจเชื่อกันว่าเป็นสถานที่สิงสถิตย์พลังแห่งการกำเนิดของสรรพสิ่งเนื่องจากยิ่งใกล้กับเขตแดนอำนาจเวทและสัตว์เวทจะหวงถิ่นพร้อมทำลายผู้บุกลุก โดยปกติแล้วตัวเธอเองเดินทางไปทุกสุดสัปดาห์เพื่อดูแลสัตว์เวทย์ที่บาดเจ็บหรือเกิดการเจ็บป่วย ครั้งล่าสุดที่เข้าไปเธอพบสัตว์เวทย์ที่บาดเจ็บหนักมันพยายามวิ่งเข้าสู่ใจกลางโครนอสเธอจึงให้บาจีลตามเข้าไปปรากฏว่าเจอฝูงฮายาน่า ลักษณะคล้ายฮายีน่าแต่ขนาดใหญ่กว่าและนิสัยดุร้ายพร้อมเข้าจู่โจมเธออย่างไม่ทันตั้งตัวผิดวิสัยสัตว์ป่าที่มักจะไม่ออกมาให้พบเห็นได้ง่าย เพราะนิสัยที่เด่นชัดคือซุ่มโจมตีในเงามืดแต่ครั้งนี้พวกมันแปรเปลี่ยนไปราวกับว่าต้องการไล่ล่าเธอแบบหมู่ นั้นเป็นการต่อสู่ที่ลำบากมากสำหรับเธอด้วยขนาดฝูงที่มีมากกว่า 30 ตัวรอบเธอไว้เป็นวงกลม การใช้คมดาบที่ผสานกับเวทย์ฟาดฟันไม่ยั้ง กรปอเวทย์บอลเพลิงที่ส่งออกไปไม่ขาดสายมีผลทำให้ร่างกายต้องรับภาระอย่างมาก จนเธอเห็นช่องทางที่สามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้จึงได้ขึ้นไปนั่งบนตัวของบาจีลให้วิ่งฝ่าออกไปเพื่อบินขึ้นที่สูงแต่ต้นไม้ที่รกชัฏกลับทำได้แค่วิ่งบนพื้นเธอจึงตัดสินใจเรียกดาบเวทย์เหวี่ยงตัดต้นไม้เป็นทางให้สามารถบินสู่ด้านบนเมื่อมันบินได้ไม่นาน ปีกที่บาดเจ็บจากกการต่อสู้กับฝูงฮายาน่าก็ทำให้มันบินกลับมาบนพื้นอีกครั้ง แต่นั้นก็ทำให้เธอสามารถขับไล่ฝูงฮายาน่ากลับเข้าไปในป่าแล้วเนื่องจากการพ้นออกจากป่าทึบอันเป็นแหล่งพลังของฮายาน่าสู่ป่าโปร่ง แต่นั้นก็ทำให้ต้องอยู่ในป่าต่อสักพักเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ไล่ล่าเช่นนั้นอีก ทำให้เธอได้อยู่รักษาอาการบาดเจ็บที่ปีกของบาจีลจนหายดีใช้เวลายร่วมหลายเดือน เนื่องจากน้ำลายของฮายาน่ามีพิษทำลายลึกถึงแก่นเวทย์ จำเป็นต้องรักษาโดยใช้พลังเวทย์และการทายาบริเวณที่บาดเจ็บ
โครม !!! ถาดอาหารที่ถูกนำมาเพื่อวางบนโต๊ะที่มีชายนัยน์ตาสีแดงเบอร์กันดี้ราวกับย้อมด้วยเลือดที่ทับทมมานับไม่ถ้วนปัดมันทิ้งเมื่อได้ยินสิ่งที่ชายอีกคนคุกเข่ารายงาน
“เด็กนั้นรอดไปได้ขอรับนายท่าน”
“เรื่องแค่นี้ทำไมพวกเจ้าถึงยังจัดการไม่ได้ก็แค่เด็กสาวคนเดียว ข้าอุตส่าห์ล่อลวงเด็กนั้นไปถึงส่วนกลางโคโรนอสแล้วแท้ๆ สำหรับเรื่องนี้เจ้าควรได้รับการลงโทษอย่างไรดี บูเรส”
“ข้าขอโอกาสอีกสักครั้งเถิดนายท่าน หากข้ายังทำไม่สำสำเร็จ ท่านจะให้ข้าไปทำอะไรข้าก็ยอมขอรับ”
“ไม่ๆ ข้าชอบเจ้ามากรู้ไหมเจ้าเป็นข้าที่ภักดีมาตลอดไม่เคยๆเลยสักครั้งที่เจ้าจะห่างข้าหรือแปรพักตร์ไปเพียงเพราะพลังที่หายไปของข้า ข้ายังมีโอกาสให้เจ้าได้แก้ตัวไปจัดการเด็กนั้นที่โรงเรียนเอรีเนียนซะ”
ผลงานอื่นๆ ของ In-Ma ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ In-Ma
ความคิดเห็น